วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

สุตรการทำฝอยทอง

วิธีการทำฝอยทอง



    อุปกรณ์
        - กระทะทองเหลือง ชามผสม กระชอน เทียนหอม

     วัตถุดิบ
        1. ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
        2. ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
        3. กลิ่นดอกมะลิ ½ ช้อนชา
        4. ใบเตย 1 ใบ
        5. น้ำตาลทราย 600 ก.
        6. น้ำเปล่า 400 มล.
        7. เทียนอบ 1 ชิ้น

       * ส่วนผสมสำหรับ 2 - 3 ที่







    เวลาในการทำประมาณ 30 นาที


วิธีการทำ
    1. นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ลงต้มในกระทะทองเหลือง เปิดไฟแรง ห้ามคนเด็ดขาดไม่อย่างนั้นน้ำตาลจะตกผลึก
    2. ตีไข่ไก่และไข่เป็ดให้เข้ากัน นำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ จากนั้นตักไข่ใส่กรวยสำหรับทำฝอยทอง
    3. ตักใบเตยออก และหยอดไข่ให้เป็นสาย วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20 - 30 รอบ ต่อ 1 ชิ้น
    4. ใช้ไม้ปลายแหลม ค่อยๆช้อนฝอยทองขึ้นมาให้เป็นแผ่น วางพักไว้บนตะแกรง 30 นาที
    5. จุดเทียนหอมให้มีควันขึ้นมา แล้วจึงดับไฟ นำเทียนหอมและขนมฝอยทอง อบรวมกันด้วยภาชนะปิด 10 นาที                                       ก็จะได้ฝอยทองหอมๆไว้รับประทานแล้วค่ะ


         
 

สุตรการทำขนมลอดช่อง

 สูตรขนมหวานไทย : ขนมลอดช่อง

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม
 
ขนมไทย : ขนมลอดช่องน้ำกะทิ
+ ส่วนผสมตัวลอดช่อง +
* แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
* แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
* แป้งซ่าหริ่ม 20 กรัม
* น้ำปูนใส 450 กรัม
* น้ำใบเตย 250 กรัม
* น้ำแข็ง
 
+  ส่วนผสมน้ำกะทิ +
* น้ำกะทิ 250 กรัม
* น้ำตาลปึก 150 กรัม
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
* เทียนอบ
+ เพิ่มเติม +
* เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, ขนุน อื่นๆ

ขนมไทย : ขนมลอดช่องใบเตย
ขนมไทย : ขนมลอดช่องน้ำกะทิ
 
      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ทำตัวลอดช่องโดยผสมแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, แป้งซ่าหริ่ม เข้าด้วยกัน หลังจากนั้นค่อยๆใส่น้ำ ปูนใสทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนและเหนียว และค่อยๆใส่น้ำปูนใสจนหมด แล้วจึงใส่น้ำ ใบเตย แล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนแป้งเนียวและข้นจึงลดไฟลง กวนต่อจนแป้งสุก (แป้งจะมี ลักษณะข้นเหนียว)จึงปิดไฟ
2. เตรียมน้ำเย็นโดย นำน้ำแข็งไปละลายในน้ำจนน้ำเย็นจัด จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอน ที่หนึ่งไปใส่ลงในพิมพ์ลอดช่อง ค่อยๆกดให้เป็นเส้นหย่อนลงไปในน้ำเย็นที่เตรียมไว้
  
3. ทำน้ำกะทิโดยนำน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ และนำไปอบควันเทียนให้หอม
4. ตักเส้นลอดช่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบ สามารถใส่เครื่องเพิ่มเติมได้ตามต้องการ (เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, อื่น) เสริฟได้ทันที


วันไหว้ครุ

ความหมายวันไหว้ครู

      วันไหว้ครู เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สถาบันการศึกษาทุกระดับทุกแห่งจัดขึ้นในช่วงต้น ๆ ของปีการศึกษา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจของคนไทย
            - สะท้อนถึงความผูกพันใกล้ชิดระหว่างครูกับศิษย์
            - สะท้อนให้เห็นถึงความกตัญญูรู้คุณของสังคมไทยต่อผู้มีพระคุณ
            - สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความเมตตา ของครูต่อศิกษย์
            - สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางจิตใจ
            - แฝงสาระที่เป็นคติธรรมสอนใจมากมาย
          วันไหว้ครู เป็นวันที่นักเรียนจะได้แสดงคุณธรรมในจิตใจ คือไหว้ครู คำว่า  ไหว้ครู  นั้น เป็นถ้อยคำธรรมดาสามัญที่เข้าใจกันอยู่ และทราบถึงความหมายกันเป็นอย่างดี แต่ก็จะขอขยายความคำว่า  ไหว้ครู  เพื่อประกอบความรู้และประดับสติปัญญาตามสมควร
           ไหว้ครู  เป็นคำไทย 2 คำ นำมาเชื่อมกัน คือคำว่า ไหว้  กับคำว่า  ครู  แต่ละคำมีความหมายอยู่ในตัว คำว่า ไหว้ ก็หมายถึงการแสดงสัมมาคารวะ การบูชา การแสดงความนับถือ การแสดงความเทิดทูน นี่เรียกว่า  ไหว้  เป็นคำกิริยาที่ใช้กันเป็นประเพณีนิยมของไทย และในบางกรณีคำนี้ ก็ย่อมจะกินความคลุมไปถึง กราบซึ่งในความหมายว่ายอมตนลงราบคาบด้วย เพราะฉะนั้นไหว้ก็ดีกราบก็ดี รวมอยู่ในความหมายอันเดียวกัน คือ แสดง ความยกย่อง แสดงอาการเชิดชูบูชานับถือ 
           โอกาสนี้เราทั้งหลาย ได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครู อาจารย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ความถนัด ครูนั้นเป็นทิศๆ หนึ่งในจำนวนทิศทั้ง 6 โดยเฉพาะเป็นทิศเบื้องขวา เรียกว่า ทักขิณ ทิศที่ว่าให้ความถนัด คือเป็นผู้ให้วิชาความรู้แก่เรา      
ประโยชน์ของการไหว้ครู
          หากการแสดงคุณธรรมด้วยการไหว้ไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว ประเพณีน่าจะเลิกกันเสียที แต่ที่ต้องไหว้กันอยู่ประจำทุกปี ทุกโรงเรียน แสดงว่าต้องมีประโยชน์ ประโยชน์ของการไหว้ คือ
          1. ผู้ไหว้ได้รับความเมตตาจากผู้ถูกไหว้ 
          2. ผู้ไหว้ได้รับความสบายใจ 
          3. ช่วยให้ผู้ถูกไหว้หันมาสำรวจตรวจตราพัฒนาตนเอง 
          4. ได้รักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยไว้ 
          5. บรรเทาโทษเสียได้ 
          โบราณท่านกล่าวว่า "ศรต้องมีพิษ ศิษย์ต้องมีครู ศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ ศิษย์ไม่มีครู เหมือนงูไม่มีพิษ" ไม่น่ากลัวอะไร ไม่ต่างอะไรกับปลาไหล รอเวลาให้เขาผัดเผ็ดเท่านั้น "ศิษย์ดีต้องมีคุณธรรม ศิษย์ไม่ได้ความคุณธรรมไม่มี" นักเรียนจะต้องรู้จักข้าว ข้าวรวงโตที่มีวิตามิน เวลามันออกรวง จะน้อมรวงถ่วงยอดแสดงอาการดุจคารวะแม่พระธรณี แต่ข้าวรวงใดที่ชี้เด่แทบจะทิ่มก้นเทวดา แสดงว่าข้าวรวงนั้นไม่มีวิตามิน เป็นข้าวขี้ลีบ คนก็เหมือนกัน หากรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน แสดงว่าเป็นคนมีคุณภาพเป็นผู้มีคุณธรรม บางคนเป็นโรคสันหลังแข็งก้มไม่ลง บุคคลนั้นไม่ต่างอะไรกับข้าวขี้ลีบ
พิธีไหว้ครู
          พิธีไหว้ครู หรือ การไหว้ครู มีหลายอย่าง เช่น การไหว้ครูนาฏศิลป์ ไหว้ครูดนตรี ไหว้ครูโหราศาสตร์ ไหว้ครูแพทย์แผนไทย เป็นต้น  ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไป เมื่อเอ่ยถึง พิธีไหว้ครู เรามักจะหมายถึง การไหว้ครูในสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำในช่วงเปิดภาคการศึกษา  การไหว้ครู เป็นประเพณีสำคัญที่มีมาแต่โบราณ ถือเป็นพิธีกรรมที่แสดงความเคารพและระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ ครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์วิชาความรู้ให้ ทำให้เราสามารถนำไปประกอบวิชาชีพ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต โดยทั่วไป พิธีไหว้ครูมักจะจัดในวันพฤหัสบดี ด้วยถือว่าพระพฤหัสเป็นเทพที่ส่งเสริมวิทยาการและความเฉลียวฉลาด ซึ่งเป็นคุณสมบัติของครู จึงถือเอาวันนี้เป็นวันไหว้ครู เพื่อความเป็นสิริมงคล
คำสวดไหว้ครูทำนองสรภัญญะ
      ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตตรา นุสาสกา
      ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอรปเกิดประโยชน์ศึกษา 
      ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
      ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
      ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
      ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
     ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทย เทอญ
ปัญญา วุฑฒิ กเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหํ
คำปฏิญาณตน
เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เรานักเรียนจักต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน
 มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
เรานักเรียนจักต้องปฏิบัติตนไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
สิ่งที่ต้องเตรียมในการไหว้ครู
          การไหว้ครู ในอดีตนั้น มักจะใช้ หญ้าแพรก ข้าวตอก ดอกมะเขือ และดอกเข็ม เป็นองค์ประกอบในพานดอกไม้แต่ละอย่างล้วนเป็นปริศนาธรรมทั้งสิ้น
           - หญ้าแพรก เป็นตัวแทนที่แสดงถึงความเข้มแข็ง อดทนถึงแม้จะแห้งแล้ง คนเดินเหยียบย่ำ หญ้าแพรกก็จะไม่ตาย พอได้รับโอกาสที่เหมาะสม ได้รับความชุมชื้น ก็จะแตกยอดเจริญงอกงามเป็นอย่างดี  ครูจึงต้องเป็นผู้ที่เข้มแข็งอดทนต่อปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนนักศึกษามากมาย และค่อย ๆสะท้อนปลูกฝังความมุ่งมั่นอดทน เข้มแข็งไปสู่นิสัยของนักเรียน นักศึกษา ฝึกให้เขาเข้มแข็งอดทนให้จงได้
          - ข้าวตอก เป็นข้าวที่เกิดจากการใช้เมล็ดข้าสารไปคั่ว โดยมีฝาครอบไว้ เมื่อได้รับความร้อนระดับหนึ่ง เมล็ดข้าวก็จะพองตัวและแตกตัวออกเป็นข้าวตอก มีกลิ่นหอม  เช่นเดียวกับการให้การศึกษา ครูผู้สอนต้องให้การอบรมคู่กันไปด้วย "อบเพื่อให้สุกรมเพื่อให้หอม" เช่นเดียวกับการทำข้าวตอก
            การสั่งสอนอบรมของครู บางครั้งต้องมีการว่ากล่าวตักเตือน ติติงหรือทำโทษ ในการกระทำที่ไม่เหมาะสมเสมือนการใช้ความร้อนกับเมล็ดข้าว โดยมีกฏระเบียบหรือแนวปฏิบัติ เสมือนเป็นฝาครอบ ไม่ให้ลูกศิษย์กระเด็นกระดอนออกนอกลู่นอกทาง ครูจึงต้องทำหน้าที่สั่งสอนอบรมให้นักเรียน นักสึกษาเป็นดังเช่นข้าวตอก คือ "สุกและหอม" ซึ่งหมายถึง การสั่งสอนแนะนำให้เขามีความรู้ความสามารถและเป็นคนดีที่ยอมรับนั่นเอง
             - ดอกมะเขือ ลักษณะของดอกมะเขือ เวลาบานจะสีขาวสะอาดและดอกจะโน้มคว่ำลงพื้นดินซึ่งก็เป็นปริศนาธรรม แสดงถึงความสะอาดบริสุทธิ์ของจิตใจ เป็นคนซื่อสัตย์ อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ
             - ดอกเข็ม ลักษณะของดอกเข็มจะมียอดดอกแหลม ซึ่งเป็นปริศนาธรรมว่า ครูต้องจัดการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังความคิด ให้นักเรียนนักศึกษาเป็นคนฉลาด(หัวแหลม) รู้จักวิเคราะห์วิจารณ์ ใช้ความคิดให้เป็นประโยชน์แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบเห็น ความเฉียบคมทางความคิดจะทะลุทะลวงทุกปัญหาได้
             คนโบราณช่างชาญฉลาดที่จะสอนศิษย์ด้วยกลวิธีต่าง ๆ แม้กระทั่งการใช้ดอกไม้ต้นไม้ ฯลฯ เป็นสื่อการสอนทำให้ลูกศิษย์ให้ยุคก่อนเก่าได้เรียนรู้จากธรรมชาติ และรู้จักกตัญญูรู้คุณผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์อยู่ตลอดไป และการที่เราใช้ "หญ้าแพรกดอกมะเขือ" ในการไหว้ครูนั้น เพราะเป็นของหาง่าย งอกงามอยู่ทั่วไป
            ตอนเช้าตรู่วันพฤหัสซึ่งเป็นวันไหว้ครู เด็กๆจะไปโรงเรียนเช้าเป็นพิเศษ เพื่อ่ไปช่วยกันจัดพานดอกไม้ ซึ่งอาจมีการปักดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบบ้าน แซมด้วยหญ้าแพรกและดอกมะเขือ พานดอกไม้นี้เด็กนักเรียนหญิงจะเป็นคนถือ ส่วนเด็กผู้ชายจะถือธูปเทียนและช่อดอกไม้ ( ช่อดอกไม้หมายถึงดอกไม้ที่หาได้เอามารวมกัน แซมด้วยหญ้าแพรกและดอกมะเขือเช่นกัน)
            พิธีไหว้ครูจึงเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่นักเรียนทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันมาแสดงความเคารพและระลึกบุญคุณของครูอาจารย์อย่างแท้จริง
ข้อมูลจาก 
- รศ.เฉลา  ประเสริฐสังข์  http://vannessa.exteen.com 
- http://www.act.ac.th/knowledge/teacher/index.asp 
- http://noknoi.com

ประวัติวันเข้าพรรรษา

ประวัติวันเข้าพรรษา

ประวัติวันเข้าพรรษา

ประวัติวันเข้าพรรษา

การเข้าพรรษา เป็นพุทธบัญญัติ ซึ่งพระภิกษุทุกรูปจะต้องปฏิบัติตาม หมายถึง การอธิษฐานอยู่ประจำที่ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็นจริง ๆช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝนคือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ดังนั้น วันเข้าพรรษา...
วันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำที่ ไม่จาริกไปค้างแรมตามสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็น เป็นระยะเวลา ๓ เดือนในฤดูฝน คือตั้งแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ ซึ่งวันเข้าพรรษาปีนี้ ตรงกับวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕...
ถวายเทียน ผ้าอาบน้ำฝน กิจกรรมชาวพุทธในวันเข้าพรรษา

ถวายเทียน ผ้าอาบน้ำฝน กิจกรรมชาวพุทธในวันเข้าพรรษา

การถวายเทียนเพื่อจุดตามประทีปเป็นพุทธบูชานั้น มาจากอานิสงส์การถวายเทียนเพื่อจุดเป็นพุทธบูชา ที่ปรากฏความในพระไตรปิฎกและในคัมภีร์อรรถกถา ว่าพระอนุรุทธะเถระ เคยถวายเทียนบูชาทำให้ได้รับอานิสงส์มากมาย...
งดเหล้าเข้าพรรษา จุดเริ่มต้นดีๆ ที่จะชนะเหล้า

งดเหล้าเข้าพรรษา จุดเริ่มต้นดีๆ ที่จะชนะเหล้า

"งดเหล้าเข้าพรรษา" จุดเริ่มต้นดีๆ ของการเอาชนะเหล้า หลังพบคนไทยดื่มเหล้ากว่า 10 ล้านคน ในทุกๆ วันสำคัญทางศาสนา หลายคนมักอยากที่จะทำแต่สิ่งดีๆ ด้วยการไปทำบุญตักบาตร ไหว้พระ เพื่อเพิ่มความเป็นศิริมงคลให้แก่ชีวิต...
หล่อเทียนพรรษาออนไลน์

ร่วมหล่อเทียนพรรษาออนไลน์ 
สนุก! ชวนร่วมทำบุญเข้าพรรษา 
ร่วมหล่อเทียนและอธิษฐานขอพรออนไลน์

“ทุก 1 คำอธิษฐานของคุณ ... สนุก! ร่วมสมทบทุน 2 บาท” 

เพื่อบริจาคแก่วัดพระบาทน้ำพุ 
จ.ลพบุรี ได้ที่http://season.sanook.com/kaopansa/



คำไทยที่มักเขียนผิดบ่อย

 คำที่เขียนถูกมักเขียนผิดเป็น
กงเกวียนกำเกวียนกงกำกงเกวียน 
 กงสุลกงศุล 
 กฎกฏ 
กฎหมาย กฏหมาย 
กบ (เต็ม,แน่น) เช่น เลือดกบปาก เลือดกลบปาก 
กบฏ   กบฎ, กบถ
 กบาล, กระบาล กะบาล, -บาน 
กระจิริดกระจิ๊ดริด , กะจิ๊ดริด
กระหนก (ลายไทย)กนก
กรีฑา (กีฬาประเภทหนึ่ง)  กรีทา, กรีธา
กรีธาทัพ (เคลื่อน ยก เดินเป็นหมู่หรือเป็นกระบวน)กรีฑาทัพ 
กะทันหัน  กระทันหัน 
กะเทยกระเทย
 กะบังลม กระบังลม 
 กะพง กระพง
กะพริบ   กระพริบ
 กะพรุน กระพรุน
กะเพรา กระเพรา 
 กังวาน กังวาล
กาลเทศะ   กาละเทศะ
 เกม เกมส์
 เกษียณอายุ เกษียนอายุ
เกษียนหนังสือ เกษียณหนังสือ,เกษียรหนังสือ
 เกษียรสมุทร เกษียณสมุทร,เกษียนสมุทร
 เกสรเกษร 
เกาต์  เก๊าท์
 แก๊ง แก๊งค์, แก๊งก์
 ขะมักเขม้น   ขมักเขม้น
 ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมูล
 คทา  คฑา, คธา
ครอก (ฝูงลูกสัตว์ที่เกิดร่วมในคราวเดียวกัน) คลอก (ไฟล้อมเผาออกไม่ได้) 
 คริสตกาล  คริสต์กาล
 คริสตจักร  คริสต์จักร
คริสต์ทศวรรษ คริสตทศวรรษ 
 คริสต์ศตวรรษคริสตศตวรรษ 
 คริสต์ศักราช คริสตศักราช
คริสต์ศาสนา  คริสตศาสนา
ครุภัณฑ์คุรุภัณฑ์
ครุศาสตร์ คุรุศาสตร์
คลิกคลิ้ก, คลิ๊ก
คลินิก   คลีนิก, คลินิค
 ค้อน ฆ้อน
 คอนแวนต์ คอนแวนท์
 คะค๊ะ 
 คำนวณคำนวน 
 คุกกี้คุ้กกี้, คุ๊กกี้ 
 เครื่องราง เครื่องลาง 
เครื่องสำอาง เครื่องสำอางค์ 
แค็ตตาล็อก   แคตตาล็อก, แคตาล็อก
 แคระแกร็นแคระแกรน 
โควตา  โควต้า
งูสวัด   งูสวัส, งูสวัสดิ์
เงินทดรอง เงินทดลอง 
จงกรม จงกลม
จะงอย จงอย
จะจะจะ ๆ
จะละเม็ดจาละเม็ด, จาระเม็ด, จรเม็ด, จระเม็ด
จักจั่นจั๊กจั่น 
จักรพรรดิ  จักรพรรดิ์
จักรวรรดิ จักรวรรดิ์
 จักสานจักรสาน 
 จาระบีจารบี 
 จำนง/เจตจำนง จำนงค์/เจตจำนงค์
 โจทก์จำเลย โจทย์จำเลย
โจทย์เลข โจกท์เลข 
โจษจัน โจทจัน,โจทย์จัน,โจษจรรย์ 
ฉัน ฉันท์ เสมือน เช่น ฉันญาติ ฉันมิตร; รับประทาน ใช้กับพระสงฆ์  ฉันท์
ชโลมชะโลม
 ชอุ่มชะอุ่ม 
ซาวเสียง ซาวด์เสียง, ซาวน์เสียง, ซาวนด์เสียง 
 ซ่าหริ่มสลิ่ม, ซะหริ่ม, ซ่าหลิ่ม 
ซีเมนต์ ซีเม็นต์, ซีเมนท์, ซีเม็นท์, ซีเม็น
เซ็นชื่อเซ็นต์ชื่อ
เซนติเมตรเซ็นติเมตร 
 ฌาน ฌาณ
ดอกจัน (เครื่องหมาย) ดอกจันทร์ ,ดอกจันทน์
ดอกไม้จันทน์  ดอกไม้จันทร์
ดัตช์  ดัชต์, ดัชท์, ดัทช์
 ดำรงดำรงค์ 
 โดยดุษณี (อาการนิ่งซึ่งแสดงถึงการยอมรับ) โดยดุษฎี (ความยินดี , ชื่นชม)
ตรรกะ, ตรรกตรรกกะ  
ตระเวน / ลาดตระเวนตระเวณ / ลาดตระเวณ
ตราสัง ตราสังข์
ตะราง (ที่คุมขังนักโทษ) ตาราง 
ต่าง ๆ นานา ต่าง ๆ นา ๆ  
ตานขโมยตาลขโมย 
เต็นท์  เต๊นท์
ใต้เท้าไต้เท้า 
ไต้ก๋ง  ใต้ก๋ง 
ไตรยางศ์ไตรยางค์
ถนนลาดยางถนนราดยาง
ทโมน ทะโมน, โทมน
ทยอยทะยอย
ทแยง ทะแยง, แทยง 
ทรงกลดทรงกรด 
ทรราช (ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อน)ทรราชย์ 
ทระนง, ทะนงทรนง, ทนง 
ทลายทะลาย
 ทศกัณฐ์ทศกัณฑ์
ทอนซิลทอมซิน
ทะนุถนอมทนุถนอม
ทะลาย (ช่อหมาก, มะพร้าว)ทลาย (แตกหัก, พัง) 
ทะเลสาบทะเลสาป
เทคนิคเทคนิก
ทูนหัว ทูลหัว 
ทูลกระหม่อมทูนกระหม่อม
เท่เท่ห์
เทพนมเทพพนม
เทิด เทอด 
เทเวศร์เทเวศน์
 เท้าความ ท้าวความ
 แท็กซี่ แท๊กซี่
นอต น็อต, น๊อต 
นัยนัยยะ
นัยน์ตา นัยตา 
น้ำจัณฑ์น้ำจัน
น้ำมันก๊าดน้ำมันก๊าซ, -ก๊าส
น้ำแข็งไสน้ำแข็งใส
โน้ตโน๊ต, โน้ท, โน๊ท 
บ่วงบาศบ่วงบาศก์, บ่วงบาต, บ่วงบาท
บังสุกุล บังสกุล 
บัญญัติไตรยางศ์บัญญัติไตรยางค์
บัตรสนเท่ห์ บัตรสนเท่
บันได บรรได 
บันเทิงบรรเทิง 
บันลือบรรลือ
บางลำพูบางลำภู
บิณฑบาต บิณฑบาตร, บิณฑบาท
บิดพลิ้ว  บิดพริ้ว 
เบรกเบรค
ประกายพรึกประกายพฤกษ์
ประจัญบานประจันบาน, ประจันบาล, ประจัญบาล 
ประจันหน้า ประจัญหน้า
ประณตประนต
ประณม (การน้อมไหว้)ประนม (ยกกระพุ่มมือ)
ประณาม (กล่าวร้าย) ประนาม 
ปรากฏ  ปรากฎ
ปรานี (เอ็นดู) ปราณี (ผู้มีชีวิต) 
ปล้นสะดมปล้นสดมภ์
ปะแล่มปแล่ม, แปล่ม
ปาติโมกข์ปาฏิโมกข์ 
ปิกนิกปิคนิค 
ปุโรหิตปุโลหิต 
เปอร์เซ็นต์เปอร์เซนต์
ผล็อยผลอย
ผลัดเปลี่ยนผัดเปลี่ยน
ผลัดเวรผัดเวร 
ผอบผะอบ
ผัดวันประกันพรุ่ง ผลัดวันประกันพรุ่ง
ผัดหนี้ผลัดหนี้ 
ผาสุกผาสุข
เผอเรอเผลอเรอ
ผัดไทยผัดไท 
พะแนง พแนง, แพนง 
พะยอมพยอม 
พันทางพันธุ์ทาง
พัศดีพัสดี
พากย์หนังพากษ์หนัง
พานจะเป็นลม พาลจะเป็นลม 
พิศวาส พิสวาส 
พิสดารพิศดาร 
พิสมัยพิศมัย
พุทธชาดพุทธชาติ 
เพชฌฆาต เพชรฆาต, เพ็ชรฆาต
เพนียดพเนียด, พะเนียด
เพริศพริ้งเพริดพริ้ง
เพียบพร้อมเพรียบพร้อม
แพทยศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ 
โพนทะนาโพนทนา
โพสพโพศพ
ฟังก์ชันฟังก์ชั่น
ฟิล์ม  ฟิลม์, ฟิมล์, ฟิม์ล 
ฟุลสแก๊ปฟูลสแกป 
ไฟแช็กไฟแชค, ไฟแช็ค 
มงกุฎมงกุฏ
มณฑปมนฑป, มณทป 
ม่อห้อม, ม่อฮ่อม, หม้อห้อม หม้อฮ่อม 
มัคคุเทศก์ มัคคุเทศ, มัคคุเทศน์
มัคนายก, มรรคนายกมัคทายก, มรรคทายก
มัสตาร์ด มัสตาด 
 มัสมั่นมัสหมั่น 
 มานุษยวิทยามนุษยวิทยา 
ม่าเหมี่ยวมะเหมี่ยว
มุกตลกมุขตลก 
 ไมยราบ (พรรณไม้) ไมยราพ
ไมยราพณ์ (ตัวละครในรามเกียรติ์)ไมยราพ
ย่อมเยา ย่อมเยาว์
 รสชาติรสชาด 
ระเห็จ  รเห็จ, เรห็จ
รักษาการ (ปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราว) รักษาการณ์
รักษาการณ์ (เฝ้าดูแลเหตุการณ์)รักษาการ
ราชัน (พระเจ้าแผ่นดิน)ราชันย์ (เชื้อสายของพระเจ้าแผ่นดิน)
แร็กเกต แร็กเก็ตแร็กเก็ต
ลมปราณลมปราน 
ล็อกเกตล็อกเก็ต 
ละโมบลโมบ
ละเอียดลออ ลเอียดลออ, ละเอียดละออ 
ลายเซ็นลายเซ็นต์ 
ลิดรอนสิทธิ์ริดรอนสิทธิ์
ลิฟต์ลิปต์, ลิฟ, ลิฟท์  
ลำไยลำใย
ลูกนิมิตลูกนิมิตร
ลูกบาศก์ลูกบาศ
เล่นพิเรนทร์เล่นพิเรนท์
เลือนราง  เลือนลาง
เลิกรา เลิกลา 
โลกาภิวัตน์ โลกาภิวัฒน์ 
 โล่โล่ห์ 
ไล่เลียงไล่เรียง, ไร่เรียง, ไร่เลียง 
วันทยหัตถ์ วันทยาหัตถ์
วันทยาวุธวันทยวุธ 
วายชนม์วายชน 
วารดิถีวาระดิถี 
วิ่งเปี้ยววิ่งเปรี้ยว
วิ่งผลัดวิ่งผัด
วิหารคดวิหารคต 
 วีดิทัศน์วิดีทัศน์,วีดีทัศน์ 
เวทมนตร์ เวทย์มนตร์, เวทมนต์ 
เวนคืนเวรคืน 
สไบสะไบ, ไสบ
สังเกตสังเกตุ 
สันโดษสัญโดษ
สัมมนาสัมนา, สำมะนา 
สาบสูญสาปสูญ 
สาปแช่งสาบแช่ง
สามเส้าสามเศร้า
สายสิญจน์สายสิญจ์
 สิริมงคล ศิริมงคล
สีสวาดสีสวาท, สีสวาส
สุกียากี้สุกี้ยากี้
เสื้อกาวน์เสื้อกาว, เสื้อกาวด์ 
แสตมป์ สแตมป์ 
หมูหย็องหมูหยอง
หมาในหมาไน 
หมามุ่ย, หมามุ้ยหมาหมุ้ย
หย็องแหย็ง หยองแหยง 
หลงใหล หลงไหล 
หัวมังกุท้ายมังกรหัวมงกุฎท้ายมังกร
เหลวไหล เหลวใหล 
ใหลตาย (โรค)ไหลตาย 
องคชาตองคชาติ
อนุญาตอนุญาติ 
อนุมัติอนุมัต
อเนกประสงค์เอนกประสงค์
อเนจอนาถอเนถอนาถ
ออฟฟิศอ็อฟ-, -ฟิซ, -ฟิส, -ฟิต  
อ้อยควั่น  อ้อยขวั้น, อ้อยฟั่น 
อะลุ่มอล่วย, อะลุ้มอล่วย อลุ่มอล่วย, อะลุ่มอะหล่วย 
อะไหล่ อาหลั่ย, อาไหล่, อะหลั่ย 
อัญชันอัญชัญ
อัตคัด อัตคัต 
อานิสงส์ อานิสงฆ์ 
อาเพศ อาเพท, อาเภท 
อินทรี (ปลา, นก) อินทรีย์ (ร่างกายและจิตใจ) 
 อินฟราเรด อินฟาเรด, อินฟาร์เรด 
อิริยาบถ อิริยาบท 
อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็คทรอนิกส์, อิเล็คโทรนิกส์ 
อีเมล อีเมล์
เอเชีย เอเซีย 
ไอศกรีม ไอศครีม, ไอติม, ไอสกรีม

คำทักทาย 10 ประเทศ อาเวียน

คำทักทายประจำชาติอาเซียน 10 ประเทศ

คำทักทายของประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ

1.ประเทศไทย  
คำทักทาย – สวัสดี
2.ประเทศบรูไน
ชื่อภาษาท้องถิ่น – เนการาบรูไนดารุสซาลาม
คำทักทาย  – ซาลามัต ดาตัง     

3.ประเทศกัมพูชา หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า “เขมร”
   คำทักทาย – ซัวสเด

4.ประเทศอินโดนีเซีย
ชื่อภาษาท้องถิ่น – เนการา เคซาตวน เรปูบลิก อินโดเนเซีย 
คำทักทาย – ซาลามัต เซียง 

5.ลาว เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดเราที่สุด
ชื่อภาษาท้องถิ่น – สาทาละนะลัต ปะซาทิปะไต ปะซาซนลาว
คำทักทาย – สะบายดี 
6.มาเลเซีย ทางใต้ของเรา เนื่องจากเป็นประเทศมุสลิม ชุดประจำชาติก็จะคล้ายๆชุดมุสลิมครับ
ชื่อภาษาท้องถิ่น – เปร์เซกูตาน มาเลเซีย
คำทักทาย – ซาลามัต ดาตัง 

7.พม่า เพื่อนบ้านทีน่ารักของเราอีกประเทศ 
ชื่อภาษาท้องถิ่น – ปี่เด่าง์ซุ มยะหม่า ไหน่หงั่นด่อ
คำทักทาย – มิงกาลาบา 

8.ฟิลิปปินส์ เกาะทางตะวันออกของอาเซียน แต่วัฒนธรรมและศาสนาค่อนข้างต่างกับในเอเชีย จนเคยมีนักเดินเรือชาวอังกฤษตั้งคำขวัญว่า
“ประเทศฟิลิปินส์เป็นส่วนนึงของละตินอเมริกาที่โดนคลื่นพัดมาทางเอเชีย”
ชื่อภาษาท้องถิ่น – เรปูบลิกา นัง ปิลิปินัส
คำทักทาย – กูมุสตา
9.สิงคโปร์ 
ชื่อภาษาท้องถิ่น ภาษาอังกฤษ -รีพับลิก ออฟ สิงคโปร์
ภาษาจีน – ซินเจียโพ ก่งเหอกั๋ว
คำทักทาย – หนีห่าว 
10.ประเทศเวียดนาม
ชื่อภาษาท้องถิ่น – ก่ง หั่ว สา โห่ย จู่ เหงียน เหวียต นาม
คำทักทาย – ซินจ่าว